ข้อตกลงในการให้ความยินยอม เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. เราเป็นใคร

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สนใจที่เก็บรวบรวมโดยบริษัทฯ ผ่านเวปไซต์ https://lawcharoenbus.com หรือช่องทางอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ พัฒนาและปรับปรุงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยพิจารณาตามหลักการทั่วโลกและภายในประเทศ กฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้วและแนวทางปฏิบัติ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ในกรณีที่ท่านมีข้อซักถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่านอีเมล lawcharoenbus@gmail.com เมื่อได้รับคำถามหรือข้อกังวลของท่าน บริษัทฯ จะติดต่อท่านภายในเวลาอันสมควรเพื่อตอบคำถามหรือข้อกังวลของท่าน ในบางกรณีบริษัทฯ อาจต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน

2. ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทที่มีความละเอียดอ่อนและเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ข้อมูลทางชีวภาพ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม และข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังต่อไปนี้

3.1. ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ชื่อเล่น เพศ วันเกิด ภาพถ่าย ภาพและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ภาพและหมายเลขบัตรนักเรียนหรือนักศึกษา หรือหมายเลขอื่นใดที่สามารถใช้ในการยืนยันตัวตน ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่
3.2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว อาทิ ข้อมูลสุขภาพ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น
3.3. ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลติดต่อ
3.4. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา เช่น ประวัติการศึกษา
3.5. ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชี หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
3.6. ข้อมูลเพื่อให้บริการเฉพาะกลุ่ม เช่น บุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการได้ยิน
3.7. ข้อมูลเกี่ยวกับข้อความ อีเมล เอกสาร งาน ผลิตภัณฑ์ การติดต่อสื่อสาร ที่สร้างขึ้น จัดเก็บ และ/หรือ ส่ง โดยใช้เครือข่ายแอปพลิเคชัน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์สื่อสารของบริษัทฯ
3.8. ข้อมูลในการวิเคราะห์การใช้บริการ เพื่อการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน รวมถึงข้อมูลที่บันทึกในระบบรักษาความปลอดภัย ข้อมูลการบันทึกภาพผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือสื่ออื่น เป็นต้น
3.9. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดการความสัมพันธ์ การทำข้อตกลงหรือสัญญาต่าง ๆ การให้สิทธิสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่จำเป็นสำหรับบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามกฎหมาย คำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้

4.1. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง
4.1.1. ระหว่างการสมัครเข้าระบบ เช่น แบบฟอร์มผ่านทางเวปไซต์ https://lawcharoenbus.com และ/หรือ แบบฟอร์มอื่นใดที่ท่านกรอก รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางอีเมล และโทรศัพท์
4.1.2. ขั้นตอนการสมัครหรือยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ การรับส่งข้อมูลผ่านทางแอปคลิเคชัน Line, Facebook หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
4.1.3. จากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทฯ และท่าน
4.1.4. จากการใช้เครือข่ายแอปพลิเคชัน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือช่องทางอื่นๆ
4.1.5. จากข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่าน Browser’s cookies
4.2. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเก็บรวบรวมโดยบริษัทฯเอง ผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสอนต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ท่านสมัครเรียน หรือทำกิจกรรรมกับบริษัทฯ
4.3. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ สำหรับการติดตามและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สถานที่อุปกรณ์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครือข่าย แอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ สินทรัพย์ และทรัพยากรที่คล้ายกันของบริษัทฯ ซึ่งการเก็บรวบรวมดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน
4.4. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สามซึ่งมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับข้อมูลจากขั้นตอนการให้บริการต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกับที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเองตามที่ระบุไว้ข้างต้น

5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

5.1. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ
5.1.1. เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน
5.1.2. เพื่อแจ้งข้อมูล ข่าวสาร และข้อเสนอต่าง ๆ
5.1.3. เพื่อจัดกิจกรรม สำรวจความเห็น ความพึงพอใจ การมีส่วนร่วมของนักเรียน
5.1.4. เพื่อติดต่อบริหารจัดการข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน และดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
5.2. เพื่อความปลอดภัยและปกป้อง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทฯ
5.2.1. เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
5.2.2. เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตนสำหรับการเข้าอาคาร สถานที่
5.2.3. เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
5.2.4. เพื่อปกป้องและรักษาความปลอดภัยของพนักงาน ทรัพย์สิน สินทรัพย์ ข้อมูล เครือข่ายการให้บริการของบริษัทฯ รวมถึงตรวจสอบระบบและกิจกรรมของผู้ใช้เพื่อติดตามกิจกรรมที่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อท่าน ผู้อื่น และบริษัทฯ
5.2.5. เพื่อตรวจหา ป้องกัน และตอบสนองต่อการประพฤติมิชอบ กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย กิจกรรมต้องห้ามที่อาจเกิดขึ้น และการฉ้อโกง รวมทั้งเพื่อบังคับใช้ข้อกำหนด เงื่อนไข นโยบายของบริษัทฯ และ/หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5.3. เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์
5.3.1. เพื่อวิจัย พัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และวางแผนการตลาด ของบริษัทฯ
5.3.2. เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ สิทธิประโยชน์ รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ ของบริษัทฯ ที่วิเคราะห์และคัดสรรอย่างเหมาะสมกับท่าน
5.4. เพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงป้องกัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่บริษัทฯ หรือเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติขององค์กรต่าง ๆ
5.4.1. เพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
5.4.2. เพื่อการขอข้อมูลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
5.4.3. เพื่อการขอข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
5.5. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
5.5.1. เพื่อยกเลิกสัญญาและเก็บประวัติการพ้นสภาพ
5.5.2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
5.5.3. เพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
5.5.4. เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ และจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น กล่าวคืออยู่บนฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลอื่นใดที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ดังที่อธิบายไว้ในข้อ 3 ข้างต้นให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ หน่วยงานราชการตามกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรม รวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทฯ และ/หรือท่านเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนที่มีการจำหน่ายไป ได้มา หรือควบรวมกับบริษัทอื่น (แล้วแต่กรณี) อาจมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะเดียวกับที่อธิบายไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ว่าจ้างผู้อื่นให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและจัดให้มีการลงนามในข้อตกลงเพื่อควบคุมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เหมาะสมและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด บริษัทฯ ดำเนินการตรวจสอบภายในและภายนอกเพื่อการปกป้องข้อมูลของท่านเป็นประจำ

7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

7.1. ลักษณะการเก็บ: จัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) และ/หรือ จัดเก็บเป็นหนังสือ (Hard copy) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
7.2. บริษัทฯ มีขั้นตอนในการจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่น่าสงสัย ในกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและข้อมูลรั่วไหล หน่วยงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบทันทีเพื่อคลี่คลายข้อร้องเรียนนี้
7.3. ระยะเวลาจัดเก็บ: บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัทฯ หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา
7.4. เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทฯ ไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายในระยะเวลาอันควร

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 เมื่อบทบัญญัติหมวดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
8.1.1 เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
8.1.2 ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ
8.1.3 หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม
8.2. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to access): ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
8.3. สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้ ทั้งนี้ สิทธิในการขอให้โอนนี้ใช้เฉพาะกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ และการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันได้เท่านั้น
8.4. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
8.5. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
8.6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
8.7. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง ในกรณีที่ท่านขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่บริษัทฯ พิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นต้องยืนยันตัวตนท่านเพิ่มเติม บริษัทฯ จะขอเอกสารและ/หรือข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อยื่นคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 1 หรือตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้สิทธิของท่าน อนึ่ง บริษัทฯ มีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอที่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต คำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล คำร้องขอที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ และ/หรือคำร้องขอที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

9. ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัทฯ หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจไม่สามารถเข้าทำธุรกรรมกับท่านได้และ/หรืออาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ นอกเหนือจากกรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทฯ ได้ โดยท่านอาจได้รับสิทธิประโยชน์หรือความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ

10. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

บริษัทฯ จะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 1 หรือตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด

11. ผู้เยาว์

ด้วยลักษณะของบริการรวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ในกรณีดังกล่าวนั้น บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12. การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม โดยหากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทฯ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้ตามช่องทางที่บริษัทฯ จะได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไป

13. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทฯ และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัทฯ

14. หน้าที่และความรับผิดชอบของท่าน

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้มีการเปลี่ยนแปลง ท่านมีหน้าที่ในการแจ้งปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความสมบูรณ์ถูกต้อง ซึ่งหากท่านมิได้ดำเนินการดังกล่าวอาจมีผลทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ หรือการจ่ายเงิน สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หากท่านพบพฤติการณ์ใด ๆ ที่มีลักษณะที่กระทบต่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงอันเกิดจากอุบัติเหตุ การทำลาย การสูญหาย การเปลี่ยนแปลง การเปิดเผย การโอน การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ท่านจะแจ้งให้บริษัทฯ ทราบทันที

16. ภาษา

การแปลนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาใดก็ตาม มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกของท่านเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ที่จะถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ในกรณีที่มีข้อความขัดแย้งกันระหว่างฉบับภาษาไทยและฉบับอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย ให้ยึดข้อความตามฉบับภาษาไทย

17. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า